วันพฤหัสบดีที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

บันทึกการเข้าเรียน วันที่ 7 มกราคม 2552

เป็นการสอนต่อจากสัปดาห์ที่แล้วการจัดสภาพแวดล้อมควรจัดห้องเรียนให้สอดล้องกับเนื้อหาที่เราจะสอน และในการจัดห้องเรียนครจะมีการส่งเสริมภาษาให้กับเด็กโดยมีการจัดมุมต่างๆเช่น
1. มุมบ้าน มุมนี้เด็กก็จะเข้ามาเล่นใบมุมนี้เเล้วมีการพูดคุยกันเหมือนการอยู่บ้าน ทำให้เด็กได้มีโอกาสในการพัฒนาภาษาของเด็กได้
2. มุมหมอ มุมนี้ก็จะได้มีการเล่นบทบาทสมมติเป็นคนไข้ กับคุณหมอ ก็จะเป็นการฝึกภาษาพูดและภาษาเขียนไปในตัวเพราะการเล่นบทบาทเป็นหมอหรรือพยาบาลก็จะมีการสอบถามผูป่วย มีการนัดหมายผู้ป่วย เป็นต้น
3. มุมตลาด เด็กจะได้ฝึกการสนทนาสือสารดต้อตอบระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย
4. มุมจราจจร เด็กจะได้เรียนรู้สัญลักษณ์จราจรกระบวนการเรียนรู้แบบธรรมชาติตามวัยวุฒิของเด็กครูจะต้องมีความเชื่อมั่นในตัวเด็กว่าเขาสามารถทำทำงานได้ พฤติกรรมการเรียนรู้ของเด็กจะเกิดขึ้นเองซึ่งครูจะต้องสังเกตุ และครูจต้องระลึกว่าธรรมชาติขิงเด็กจะเกิดขึ้นพร้อมกับความสารถในการเรียนรู้มีสมองไว้คิด และมีประสาทสัมผัทั้ง
5. เพื่อการรับรู้ ทำให้เด็กสามารถเรียนรู้เเละซึมซับสิ่งต่างๆได้เองตามธรรมชาติบทบาทของครูครูควรมีวิธีการในการเชื่อมโยงประสบการณืที่เด็กมีอยู่เดิมให้สัมพันธ์กับกิจกรรมที่จัดขึ้น เช่น การเล่าเรื่อง การเปิดโอกาสให้เด็กได้พูดคุย และครูควรหาหนังสือมาจัดไว้ที่ห้องเรียนเพื่อให้เด็กได้หยิบอ่านได้ตามความสะดวกบรรยากาศในการสอนเเนวใหม่เด็กจะเเสดงให้ครูเห็นว่า เขาต้องการเขียนสอ่งที่มีความหมาย สิ่งที่เขาอยากให้ผู้อื่นเข้าใจการเรียน ระยะเเรกจึงเป็นการที่เด็กสร้างความคิด ซึ่งเกิดจากประสบการณ์เดิมเด็กจะเขียนเส้นขยุกขยิกคล้ายตัวหนังสือ แต่ยังไม่ถูกตต้อง ครูครวส่งเสริมไม่ควรตำหนิเด็ก และให้เเก้ไขทันทีควรให้เด็กได้ฝึกสังเกตุสิ่งที่เด็กพบเห็นบ่อยๆ การสังเกตุจะช่วยให้เด็กเกิกการพัฒนาและปรับปรุงให้ถูกต้องดดยไม่เกิดความรู้สึกผิดการประเมินผลครูพิจารณาจากการสังเกตุ การบันทึก การเก็บร่องรอยทางภาษาของเด็ก ขณะทำกิจกรรมต่างๆ และสะสมชิ้นงานเป็นการประเมินการเรียนรู้จากสภาพจริง

วันพฤหัสบดีที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2552

บันทึกการเข้าเรียน วันที่3 ธันวาคม 2551

สำหรับการเรียนวิชาการจัดประสบการร์ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัยได้ดังนี้
- อาจารย์ทบทวนความรู้เดิมที่ได้เรียนในอาทิตย์ที่แล้ว และเนื้อหาที่พวกเราได้เรียนในวันนี้พอที่จะสรุปได้ดังนี้
กระบวนการเรียน
บรรยากาศการเรียน มีลักษณะของการร่วมมือกันระหว่างครูและเด็กๆ ตั้งแต่การวางแผน คือ คิดด้วยกันว่าจะทำอะไร ทำเมื่อไร ทำอย่างไร จำเป็นต้องใช้วัสดุอุปกรณ์อะไร จะหาสิ่งที่ต้องการมาไดอย่างไร
การวางแผนจะมีทั้งระยะยาว( long- range plans) เพื่อวางกรอบความคิดกว้าง
การวางแผนระยะสั้น(shot- range plans) โดยเด็กและครูจะใช้ความคิดพูดคุยปรึกษากันเพื่อหารายละเอียดและขั้นตอนในการทำกิจกรรม
การฟังและพูดของเด็ก
เด็กมีโอกาสได้ยินเสียงแม้ว่ายังพูดไม่ได้
เด็กเกิดการเรียนรู้ภาษาพูดเพราะการสอนเด็กใหพูดนั้นเด็กจำเป็นต้องได้ยิน ได้ฟังภาษาพูดก่อน ยิ่งได้ฟังมากจะเข้าใจชัดเจนขึ้น
เด็กวัย 2-3 ขวบการพูดของแม่จะช่วยให้ลูกมีพพัฒนาการทางภาษาที่ดี การสนทนา การวักถาม เกี่ยวกับกิจวัตรประจำวันเป็นสิ่งที่จำเป็นในการส่งเสริมและพัฒนาการเรียนรู้ในด้านการเข้าใจความหมายของภาษาจากเรื่องง่าไปหาเรื่องที่ยากและสลับซับซ้อนมากขึ้น
ภาษามีบทบาทในการสื่อสารความคิดรวมไปถึงจินตนาการ เพื่อตอบสนองความต้องการของตนได้เป็นอย่างดี
การอ่านและเขียนของเด็ก
การอ่านหนังสือให้เด็กฟังทุกวันเป็นสิ่งจำเป็นในการให้โอกาสเด็กเรียนรู้เพื่อพัฒนาการเขียน ขณะที่อ่านควรชี้นิ้วตามตัวหนังสือไปด้วย ทำให้เด็กเรียนรู้กฏเกณฑ์ทุกขั้นตอน สิ่งที่สำคัญคือ การให้เด็กเรียนรู้ที่จะเข้าใจประเด็นในเรื่องท่อ่านว่าสิ่งที่ประกอบกันขึ้นคือรวมทั้งหมดที่เป็นเนื้อหาที่นำเสนอระบบการคิดผ่านไวยากรณ์ของภาษา
ควรสนทนากับเด็กเกี่ยวกับกฏเกณฑ์ทางภาษาอย่างง่ายๆ เนื้อหาที่อ่านควรสัมพันธ์กับสิ่งๆรอบตัว และพยายามเชื่อมโยงประสบการณ์เดิมของเด็กตลอดเวลาเพื่อให้เห็นประโยชน์จึงกล่าวได้ว่า การเขียน หมายถึง การสื่อสารเพื่อแสดงความคิดความรู้สึกออกมาอย่างความหมาย
การเขียนและการอ่านจะดำเนินการไปพร้อมกัน เนื่องจากการเป็นนักเขียนที่ดีนั้นต้องอาศัยการอ่านที่แตกฉานในเรื่องนั้นๆ ส่วนการฝึกฝนให้เด็กเขียนหนังสือนั้น ครูต้องตระหนักว่าการฝึกเขียรที่ให้ลอกเลียนแบบโดยเด็กไม่ได้ใช้ความคิดเเตเป็นการฝึกกล้ามเนื้อมือหรือฝึกเฉพาะความสวยงามของลายมือแตกต่างโดยสิ้นเชิงกัการเขียนที่มาจากความคิด
ภาษาที่ได้จากกาฝึกคิดและการถ่ายทอดความคิดออกมาเป็นภาษาสัญลักษณ์ คือ ตัวอัการอย่างธรรมชาติจากการฟังมากได้อ่านมาก จนสามารถถ่ายทอดเองได้ และมาฝึกฝนความถูกต้อง สวยงามภายหลัง่วนการอ่านนั้นสามารถทำได้ตลอดเวลาด้วยการอ่านจากหนังสือ ถนน สิ่งรอบตัว
ความรู้ของเด็กจะเพิ่มพูนขึ้นเมื่อเด็กได้รับโอกาสในการทำกิจกรรมที่เกี่ยวกับการอ่านร่วมกับผู้ใหญ่ และกิจกรรมที่จัดให้เด็กให้อ่านเงียบๆตามลำพัง การอ่านกับเพื่อนเป็นคู่ เป็นกลุ่มย่อย เพื่ออภิปรายร่วมกัน ในการกรรับฟังและการตรวจสอบความคิดความเข้าใจซึ่งกันและกันโดยเฉพาะการอ่านจากสิ่งที่รู-เด็กเยนร่วมกัน หรือสิ่งที่เด็กเขียนขึ้นเอง
ลักษณะสำคัญและกิจกรรมทงภาษาแบบองค์รวม
อ่าน-เขียน
- เน้นความเข้าใจเเน้อเรื่องมากกว่าการท่องจำตัวหนังสือผ่านการฟังนิทาน เรื่องราวสนทนาโต้ตอบ คิดวิเคราะห์ร่วมกับครูหรือผู้ใหญ่
- การคาดคะเนโดยการเดาในขระเขียน อ่าน และสะกด เป็นสิ่งที่ได้รับในการเรียนรู้ภาษาธรมชาติโดยไม่จำเป็นต้องอ่านหรือสะกดถุดฃกต้องทั้งหมด
ในการเรียนในวันนี้ก้พอที่จะสรุปได้เพียงเท่านี้ และนอกจากเรียนเนื้อหาในเรื่องนี้แล้วอาจารยืยังมีการสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม และประสบการณืต่างๆที่อาจารย์ได้ประสบพบเจอมาให้ได้ฟังิด้วยเช่น
สื่อที่นำเข้าสู่บทเรียน
- เพลง
- คำถาม
- คำคล้องจอง
- นิทาน
- เกม
- อื่นๆ

วันศุกร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ทฤษฎีเป็นกุญแจสำคัญของการสะท้อน ความคิดต่อการสอนของครู
ผุ้เรียนต้องเป็นศูนกลางของกระบวนการเรียนรู้ครูผูสอนควรบูรณาการด้านภาษาให้กลมกลืนไปกับการเรียนรู้ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของนักทฤษฎี
การนำเข้าสู่บทเรียน
-บัตรคำ
-การจับคู่
ขั้นสอน
-สาธิต
เพียเจต์ เด็กจะเรียนรู้ผ่านกิจกรรมด้วยการเคลื่อนใหวและมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างเป็นองค์ความรู้ ขั้นภายในตนเองโดยเด็กเป็นผู้กระทำ (Active) ก่อให้เกิดการเรียนรู้ในการคิดด้วยตนเอง จึงกล่าวได้ว่า การเรียนรู้ของเด็กเกิดขึ้นจากการมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมผ่านการเล่นซึ่งช่วยให้เด็กได้เรียนรู้ภาษาจากกิจกรรมที่ทำร่วมกันและรายบุคคล
ไวกอตสกี การเรียนรู้ภาษาของเด็กเกิดขึ้นได้จากการมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลใกล้เคียง เช่น พ่อ แม่ เพื่อน ครู บริบทหรือสิ่งต่างๆรอบตัวมีอิทธิพลต่อเด็กในการช่วยเหลือให้ลงมือทำเป็นขั้นตอนผ่านการและกิจกรรมนำไปสู่การเรียนรู้ภาษาผ่านการใช้สัญลักษณ์
ฮอลลิเดย์ บริบทสิ่งแวดล้อมในสถานการณ์ที่หลากหลายมีอิทธิพลต่อการเรียนรู้ และการใช้ภาษาของเด็ก เด็กจะเป็นผู้ใช้ภาษาในการมีปฎิสัมพันธ์ระหว่างผู้คนที่เกี่ยวข้องในการเรียนรู้ทุกสิ่งผ่านภาษาและเรียนเกี่ยวกับภาษาไปพร้อมๆกัน
กู๊ดแมน ภาษาเป็นเครื่องมือที่สำคัญสำหรับชีวิตเด็ก เด็กต้องเรียนรู้ภาษาและต้องใช้ภาษาและต้องใช้ภาษาเพื่อการเรียนรู้ ดังนั้นครูต้องตระหนักและให้ความสำคัญกับภาษา
กระบวนการ
บรรยากาศการเรียน มีลักษณะของความร่วมมือกันระหว่างครูและเด็กๆ ตั้งแต่การวางแผน
การวางแผนระยะสั้น(short-rnage plans) โดยเด็กและครูจะใช้ความคิดและขั้ตอนในการทำกิจกรรม
การฟังและการพูดของเด็ก

วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

บันทึกการเข้าเรียน วันที่ 19 พฤศจิกายน 2551

วันพุธที่ผ่านมา รู้สึกว่าเรียนแล้วมีความสุข อาจารย์มีการนำเอาเนื้อหาในแต่ละวิชามาบูรณาการเข้าด้วยกัน
ทั้งวิชาการจัดประสบการณ์ทางภาษาฯ,วิชานิทานและหุ่นฯ และวิชาการจัดประสบการณ์ทางการ เคลื่อนไหวและจังหวะฯ
ทำให้สามารถเข้าใจง่ายขึ้น เนื้อหาที่เรียนพอสรุปได้ดังนี้

- นิทานมีส่วนเกี่ยวข้องกับภาษา คือ
(1)ทักษะการพูด
(2) ทักษะการฟัง
(3) ทักษะการแสดงออกด้วยท่าทาง- ภาษาเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ"สมอง" สมองของเด็กทำงานโดย "การซึมซับ" และ "ปรับปรุงสร้าง
- เครื่องมือซึมซับของเด็กคือ การใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5
- พัฒนาการ คือ การเปลี่ยนแปลงที่เป็นไปตามลำดับขั้นตอน และสะท้อนออกมาเป็นพฤติกรรม ที่จะบอกให้รู้ว่าเด็กทำอะไรได้-ไม่ได้ ไปตามลำดับอายุ
- พัฒนาการของสมองของเด็ก มีดังนี้เด็กแรกเกิด - 2 ปี เป็นขั้นของการซึมซับ
-เด็กอายุ 2-4 ปี ใช้ภาษาและคำในการสื่อสาร
-เด็กอายุ 4-6 ปี เริ่มใช้คำที่ดีขึ้น บอกเหตุผลได้ อย่างที่ตามองเห็น
-เด็กอายุ 5 ปี เป็นขั้นอนุรักษ์ เริ่มให้เหตุผล ไม่ได้ตอบตามที่ตามองเห็น
- การใช้คำถามในการถามเด็ก (กิจกรรมวาดภาพ)
(1) "หนูนึกถึงอะไรตอนวาดรูปคะ
(2) "รูปนี้หนูอยากให้เป็นอะไรคะ"
การเรียนครั้งนี้มีทั้งหมด 3 กิจกรรมด้วยกัน กิจกรรมแรก คือ อาจารย์ให้ร้องเพลงคนละ 1 เพลง ข้าพเจ้าได้ร้องเพลง ตาดูหูฟัง
กิจกรรมที่ 2 คือ เป็นกิจกรรมบทบาทสมมติ อาจารย์ให้นำเสนอสินค้าของตัวเองที่คิดว่าเบื่อแล้ว นำเสนอขายให้ดึงดูดผู้บริโภคอยากซื้อมากที่สุด สินค้าที่ข้าพเจ้านำเสนอขายคือ กระจก
กิจกรรมนี้สามารถนำมาสอนเด็กได้ โดยให้เด็กได้โฆษณา ซึ่งมีวัตถุประสงค์ ดังนี้
(1) ใช้สื่อสารเพื่อบอกลักษณะเด่น คุณลักษณะเด่น ให้ผู้อื่นคล้อยตาม
(2) ให้เด็กได้ พูด-ฟัง
(3) เด้กได้สังเกตและดึงคุณสมบัติเด่น
(4) เด็กได้วิเคราะห์และประโยชน์
กิจกรรมที่ 3 คือ กิจกรรมการกล่าวความดี คือ อาจารย์จะให้นั่งสมาธิและนึกถึงคุณความดีที่เราอยากกระทำ สิ่งที่ข้าพเจ้าอยากกระทำคือ ดิฉันนึกถึงความดีที่อยากจะทำคือ ..จะเป็นเด็กดีของพ่อแม่..

ความรู้สึกต่อการทำบล็อก

รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่วุ่นวายมากค่ะ แต่พอทำไปเรื่อยๆ ทำให้รู้สึกสนุกเพราะในการทำบล็อกชิ้นนี้ควบคู่กับการเรียนกับวิชานี้ไปด้วย พอทำไปทำมาก็เพลิดเพลินกับการตกแต่งบล็อกและมีเนื้อหาสาระในการเรียนการสอนค่ะ